Dipconsult

Project Information

Utah Valley, USA
Sink Installation
Two Hours

Reference Projects — EqoLean Showcase

โครงการ: The Can* Apartment, ปราจีนบุรี

ประเภทโครงการ: อาคารอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้น
ปีที่ดำเนินการ: 2024
พื้นที่ใช้สอย: ประมาณ 7,200 ตร.ม.

🎯 Concept การทำ Lean:

  • ปัญหาที่พบ:
    การออกแบบเดิมใช้การอ้างอิงค่าหน่วยแรง (Stress-Based Design) ซึ่งมีแนวโน้มระบุขนาดโครงสร้างและวัสดุเกินความจำเป็น เมื่อเทียบกับการออกแบบตามหน่วยกำลัง (Strength-Based Design) ที่มีมาตรฐานวิศวกรรมรองรับชัดเจนกว่า

  • แนวทางการปรับปรุง:

    • ปรับวิธีออกแบบโครงสร้างจาก Stress-Based เป็น Strength-Based Design เพื่อให้การใช้วัสดุมีประสิทธิภาพสูงขึ้น (Utilization สูงขึ้น)

    • เปลี่ยนระบบพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก (RC Slab) เป็นพื้นโพสต์เทนชั่น (Post-Tensioned Slab) เพื่อช่วยลดน้ำหนักตัวอาคารและลดปริมาณวัสดุโครงสร้าง

  • มาตรฐานที่อ้างอิง:

    • ออกแบบตามมาตรฐานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และ มยผ. (มาตรฐานการออกแบบอาคารต้านแรงแผ่นดินไหว)


📊 ผลลัพธ์ที่ได้:

รายการก่อน Leanหลัง Leanผลต่าง
ต้นทุนงานโครงสร้าง (บาท)68-69 ล้านบาท60 ล้านบาทลดลงประมาณ 12-13%
ประสิทธิภาพโครงสร้าง (Utilization)ต่ำกว่า 60%80%+เพิ่มขึ้น
ระบบพื้นRC SlabPost-Tensioned Slabลดน้ำหนักและวัสดุ
 

ผลลัพธ์คู่ขนาน

ผลลัพธ์ทางธุรกิจ

ผลลัพธ์ทางสิ่งแวดล้อม

กรณีศึกษา: การปรับขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานอุตสาหกรรม

ทีมที่ปรึกษาของเราได้ทำงานร่วมกับโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งที่มีการลงทุนในระบบทำความเย็นขนาดใหญ่เกินความจำเป็นถึง 40% จากการวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่า:

  • ระบบทำความเย็นใช้พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 35% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในโรงงาน
  • เครื่องทำความเย็นหลักมีการเดินเครื่องที่ 50-60% ของกำลังการผลิตเป็นส่วนใหญ่
  • ระบบปั๊มน้ำและพัดลมระบายความร้อนมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

ทีมที่ปรึกษาของเราได้ดำเนินการ:

  1. ติดตั้งระบบควบคุมอัจฉริยะที่ปรับการทำงานของระบบทำความเย็นตามความต้องการจริง
  2. แยกระบบทำความเย็นเป็นโซน และปรับใช้เครื่องทำความเย็นขนาดเล็กเสริมในช่วงที่มีความต้องการสูง
  3. ปรับขนาดปั๊มและพัดลมให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
  4. นำความเย็นส่วนเกินไปใช้ในระบบปรับอากาศสำนักงานและพื้นที่สนับสนุน

ผลลัพธ์:

  • ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง 28% คิดเป็นมูลค่า 4.2 ล้านบาทต่อปี
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 850 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
  • ลดค่าบำรุงรักษาลง 15% จากการใช้งานอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ROI ของโครงการคืนทุนภายใน 14 เดือน

📊 ผลลัพธ์ที่ได้: รายการ ก่อน Lean หลัง Lean ผลต่าง ต้นทุนโครงสร้าง (Turnkey) – – ลดลงประมาณ 7-8% ประสิทธิภาพการใช้วัสดุ เผื่อสูงเกินความจำเป็น ปรับลดให้เหมาะสม ใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการของเรา

ทีมที่ปรึกษาของเราทำงานร่วมกับองค์กรเพื่อพัฒนา "ECO-SMART โมเดล" ซึ่งเป็นนวัตกรรมกระบวนการที่บูรณาการการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจหลัก โดยเน้นการค้นหาและปรับปรุงการใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็น:
การสำรวจและประเมินการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น:

ตรวจวัดและวิเคราะห์การใช้พลังงานและทรัพยากรในแต่ละกระบวนการ
ประเมินอัตราการใช้งานจริงของระบบ เครื่องจักร และสาธารณูปโภค
ค้นหาช่วงเวลาที่มีการใช้ทรัพยากรสูงสุดและต่ำสุดเพื่อระบุโอกาสในการปรับปรุง

การวิเคราะห์ความเป็นไปได้:

ประเมินความเสี่ยงทางการเงินจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (ภาษีคาร์บอน ต้นทุนพลังงาน)
วิเคราะห์โอกาสในการใช้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ
ประเมินช่องว่างระหว่างการดำเนินงานปัจจุบันกับมาตรฐาน ESG

การให้คำปรึกษาในการปรับขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพ:

ออกแบบกลยุทธ์การปรับขนาดทรัพยากรให้เหมาะสม (Right-sizing)
พัฒนาแผนการใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตส่วนเกินเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
ให้คำแนะนำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวและสิทธิประโยชน์ทางภาษี

การบริหารโครงการ:

ติดตั้งระบบการจัดการพลังงานและทรัพยากรอัจฉริยะ
ฝึกอบรมบุคลากรเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน
จัดทำรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล

หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ:

จัดตั้งคณะทำงานข้ามสายงานเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทาน
สร้างเครือข่ายกับองค์กรภาครัฐและภาคประชาสังคม

ความยั่งยืนของโมเดล

ECO-SMART โมเดลได้รับการออกแบบให้มีความยั่งยืนในระยะยาว โดย:
การสร้างวัฒนธรรมองค์กร: ปลูกฝังแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
การวัดผลอย่างเป็นระบบ: มีระบบติดตามและประเมินผลที่ชัดเจนทั้งในด้านการเงินและสิ่งแวดล้อม
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: มีกระบวนการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยีและแนวโน้มใหม่ๆ
การบูรณาการกับกลยุทธ์หลัก: ผสานแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจหลักขององค์กร
CFO (คาร์บอนองค์กร)
วิเคราะห์และประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งองค์กร พัฒนาแผนลดคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนสูงสุด และวางระบบติดตามผลลัพธ์อย่างเป็นระบบ ช่วยองค์กรบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนและรองรับมาตรฐานการรายงานระดับสากล
CFP (คาร์บอนผลิตภัณฑ์)
คำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่วัตถุดิบถึงการกำจัด พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงกระบวนการและการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม สร้างความได้เปรียบทางการตลาดและรองรับการส่งออกในตลาดที่มีข้อกำหนดด้านคาร์บอน
Energy Saving
วิเคราะห์และปรับขนาดระบบพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง ด้วยเทคโนโลยีควบคุมอัจฉริยะและการบริหารจัดการพลังงานส่วนเกิน ลดการใช้พลังงาน พร้อมคำนวนระยะคืนทุนในระยะเวลาเหมาะสม
Cost Saving
ค้นหาและปรับปรุงจุดรั่วไหลของทรัพยากร (Hotspot) ในกระบวนการธุรกิจ ปรับขนาดทรัพยากรให้เหมาะสม และนำทรัพยากรส่วนเกินมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

Clients Feedback

"DigiCove helped us improve our online visibility and we saw a significant increase in website traffic. They are great to work with and I highly recommend their services. Our business consulting programs helps to break the performance of your business down into customers and product groups so you know exactly which customers or product groups"
Johannes Times CEO of REx Company
Prev
Next
Drag
Map
Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • SKU
  • Rating
  • Price
  • Stock
  • Availability
  • Add to cart
  • Description
  • Content
  • Weight
  • Dimensions
  • Additional information
Click outside to hide the comparison bar
Compare